เดือนแห่งการรณรงค์เรื่องโรคมะเร็งอัณฑะ
โรคมะเร็งอัณฑะเป็นโรคที่พบได้น้อยเมื่อเทียบกับโรคมะเร็งส่วนใหญ่ จึงมักไม่ใช่มะเร็งชนิดแรก ๆ ที่คนจะนึกถึง เดือนแห่งการรณรงค์เรื่องโรคมะเร็งอัณฑะคือเดือนเมษายนของทุกปี จะมีการจัดงานเพื่อรณรงค์ให้ผู้คนหันมาสนใจโรคมะเร็งที่ ‘มองไม่เห็น’ ชนิดนี้ และช่วยทำให้ผู้คนตระหนักถึงโรคนี้มากขึ้น เพื่อช่วยชีวิตผู้คน โรคนี้ไม่เพียงแต่หายาก แต่ยังตอบสนองต่อการรักษาได้ดีมากด้วย โดยมีอัตราความสำเร็จที่จะรักษาให้หายสูงถึงร้อยละ 95 และหากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก ๆ อัตราการรักษาหายจะเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 98
ความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งอัณฑะ
ผู้ชายแต่ละคนมีโอกาสป่วยเป็นโรคมะเร็งอัณฑะประมาณ 1 ใน 300 คน และโอกาสที่จะเสียชีวิตจากโรคนี้ก็น้อยมากเพียง 1 ใน 5,000 คนเท่านั้น สถิตินี้ทำให้เรามองเห็นความสำคัญของการตรวจคัดกรองและการรักษาโรคโดยเร็วที่สุด ดังนั้นเดือนแห่งการรณรงค์เรื่องโรคมะเร็งอัณฑะจึงเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์อาการแสดงของโรคนี้ และความจำเป็นที่จะต้องรีบปรึกษาแพทย์หากมีสภาวะที่ผิดปกติเกิดขึ้นกับร่างกายเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน
โรคมะเร็งอัณฑะเกิดขึ้นที่อัณฑะซึ่งจะอยู่ในถุงอัณฑะที่ห้อยอยู่ใต้องคชาต อัณฑะเป็นอวัยวะสืบพันธุ์เพศชายที่มีหน้าที่หลักในการผลิตอสุจิ ผลิตฮอร์โมนเพศชายและฮอรโมนเทสโทสเตอโรน โรคมะเร็งอัณฑะเกิดจากเซลล์ที่เติบโตจนควบคุมไม่ได้และรุกรานเซลล์ปกติเช่นเดียวกับโรคมะเร็งชนิดอื่น ๆ แต่โรคมะเร็งชนิดนี้มีความแตกต่างตรงที่ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งเป็นสิ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง และผู้ป่วยโรคนี้จำนวนมากก็ไม่มีปัจจัยเสี่ยงใด
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งอัณฑะ ได้แก่ การมีประวัติครอบครัวป่วยเป็นโรคนี้ ติดเชื้อเอชไอวี อยู่ในช่วงอายุ 20-34 ปี มีภาวะลูกอัณฑะไม่ลงถุง หากมีประวัติป่วยเป็นโรคนี้มาก่อนจะทำให้มีความเสี่ยงจะเป็นมะเร็งอัณฑะที่อัณฑะอีกข้างหนึ่งเพิ่มขึ้นถึง 12 เท่า หากมีกลุ่มเซลล์ที่ผิดปกติก็อาจกลายเป็นมะเร็งได้ ผู้ชายเชื้อสายคอเคเซียนมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชายผิวดำและผู้ชายเชื้อสายเอเชียถึง 4-5 เท่า
อาการของโรคมะเร็งอัณฑะ
อาการที่เกี่ยวข้องกับโรคมะเร็งอัณฑะ ได้แก่ มีก้อนเนื้อที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดที่อัณฑะข้างใดข้างหนึ่ง รู้สึกหน่วง ๆ ที่ถุงอัณฑะ การรับความรู้สึกที่อัณฑะเปลี่ยนไป ร้สึกปวดท้องด้านล่างหรือขาหนีบ รู้สึกปวดหรือไม่สบายที่อัณฑะหรือถุงอัณฑะ และมีของเหลวคั่งในถุงอัณฑะอย่างเฉียบพลัน หากมีอาการขาบวมข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง และหายใจลำบาก อาจเป็นอาการแสดงของโรคมะเร็งอัณฑะ เต้านมที่บวมหรือมีขนาดใหญ่ขึ้นก็อาจเป็นอาการของโรคนี้ได้เช่นกัน โรคมะเร็งอัณฑะระยะที่โรคพัฒนาไปมากแล้วอาจมีอาการปวดหน้าอกและหลังส่วนล่าง หายใจถี่ และมีเสมหะปนเลือด ผู้ชายอายุน้อยจนถึงวัยกลางคนควรหมั่นสังเกตอาการเลือดคั่งซึ่งมักเป็นสัญญาณเตือนแรกของโรคมะเร็งอัณฑะ เช่น อาการเลือดคั่งในหลอดเลือดดำส่วนลึก และอาการลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดซึ่งจะทำให้หายใจได้ไม่ลึก
ในช่วงเดือนแห่งการรณรงค์เรื่องโรคมะเร็งอัณฑะจะมีกิจกรรมมากมายโดยเน้นเรื่องการให้ความรู้ (เน้นความรู้เรื่องอาการของโรค และความจำเป็นที่จะต้องรับการตรวจสุขภาพ และความกังวลเรื่องภาวะมีบุตรยากหลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยโรคแล้ว) ชีวิตหลังการรักษา (รวมถึงการปรับวิถีชีวิต) ตลอดจนสุขภาพทางอารมณ์หลังจากที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคและหลังการรักษา
คนแต่ละคน กระทรวงต่าง ๆ ของรัฐบาล และองค์กรเอกชนต่างมีบทบาทสำคัญที่จะเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคนี้ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นว่าทำอย่างไรจึงจะช่วยให้การรักษาโรคนี้เกิดประโยชน์มากที่สุด